บันทึกอนุทิน
วิชา การจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย
อาจารย์ผู้สอน อาจารย์ตฤณ แจ่มถิน
กลุ่มเรียนที่ 104 (วันจันทร์บ่าย)
เวลา 12.20 - 15:00 น.
ความรู้ที่ได้รับ
ก่อนเข้าสู่บทเรียน อาจารย์ได้แจก กระดาษให้นักศึกษาคนละ 1 แผ่น ถุงมือ 1 ข้าง
จากนั้นอาจารย์ได้ให้นักศึกษานำถุงมือไปสวมมือข้างที่ไม่ถนัด ซึ่งหนูไม่ถนัดข้างซ้าย
จากนั้นอาจารย์ได้บอกให้พับกระดาษ A4 แบ่งครึ่ง
อาจารย์ได้บอกให้วาดรูปมือข้างที่ใส่ถุงมือ ให้เหมือนทุกอย่าง หลังจากวาดเสร็จอาจารย์ได้บอกให้ถอดถุงมือแล้ววาดอีกครั้งหนึ่ง
สรุปกิจกรรม... การสังเกต มือเราเองเราเห็นทุกวันแต่พอจะใช้มันเราไม่สามารถจดจำเลยได้ เมื่อถึงเวลาเราไปเป็นครู เราควรที่จะจดจำเด็กเพื่อที่จะได้ดูแลเขาได้เป็นอย่างดี
เนื้อหาใน Power Point
การสอนเด็กพิเศษและเด็กปกติ
> ทักษะของครูและทัศนคติ
ทักษะ คือ การหาความรู้เพิ่มเติม เช่น การสัมมนา สื่อต่างๆ เช่น หนังสือ อินเตอร์เน็ต ยูทูบ วิดีโอต่างๆ
ทัศนคติ คือ ต้องมองเด็กพิเศษทุกคนให้เหมือนเด็กปกติทั่วไป ทำให้เด็กเชื่อใจได้ ซื้อใจเด็กให้ได้
- ความพร้อมของเด็ก
1.วุฒิภาวะ
2.แรงจูงใจ (ขึ้นอยุ่กับครูที่จะทำให้เด็กเกิดความสนใจในการเรียนรู้)
3.โอกาส
- การสอนโดยบังเอิญ
จะเกิดมากที่สุดในช่วงที่เด็กวิ่งมาหาครูควรให้เด็กเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ครูควรสอนในเรื่องที่เด็กอยากรุ้ในระยะเวลาที่พอดี ไม่มากเกินไปควรใจเย็น อย่ารำคาญเด็ก ให้ความสนใจเด็กมากที่สุดและทำให้เด็กเกิดความสนุกในการเรียน
- อุปกรณ์หรือสื่อ
สื่อที่ดีที่สุดและเหมาะสมที่สุด คือ สื่อที่ใช้ได้หลากหลาย หลายแบบ ใช้ได้ง่าย ใช้งานได้เยอะและสามารถใช้ได้ทั้งเพศหญิง/เพศชาย
- ตารางประจำวัน
ควรมีลักษณะที่เป็นระบบ หรือ เด็กสามารถคาดคะเนได้ว่าวันนี้ตนเองจะเรียนอะไร เวลาต่อไปตนเองจะทำอะไร มีการจัดลำดับขั้นตอนและมีเวลาที่เหมาะสม
-ทัศนคติของครู
1.ความยืดหยุ่น อย่ายึดติดกับแผนการสออนควรมีการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าหรือจัดให้เหมาะสมกับ
สถานการณ์ ครูควรนึกถึงเป้าหมายหลัก อย่าคาดหวังเยอะ อย่าสอนอะไรเพิ่มเติมจากจุดประสงค์
2.การใช้สหวิทยาการ คือ มีใจกว้างการรับฟังคำแนะนำของบุคคในอาชีพอื่นๆ สร้างความสัมพันธ์ระหว่างการบำบัดกับกิจกรรในห้องเรียน เช่น ใช้การร้องเพลงแฝงการบำบัด
3.การเปลี่ยนพฤติกรรมและการเรียนรู้ ดีที่สุด คือ การให้แรงเสริม/การเสริมแรง
4.เด็กทุกคนสอนได้ /เด็กเรียนไม่ได้ เพราะ ขาดโอกาส
- เทคนิคการให้แรงเสริม
ขึ้นอยู่กับความสนใจของผู้ใหญ่ ยิ่งเสริมแรงเท่าไหร่ เด็กยิ่งทำได้ดี แต่เราควรให้การเสริมแรงแบบพอดีไม่ควรให้การเสริมแรงเยอะจนเกินไป และควรให้การเสริมแรงเมื่อมีพฤติกรรมที่เหมาะสมหากเด็กมีพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ครูควรทำเป็นไม่สนใจ/หยุดชมทันที
- วิธีการแสดงออกถึงแรงเสริมของผู้ใหญ่
การพูด/ชมเชย การยืนหรือนั่งใกล้เด็ก พยักหน้า ยิ้มรับ การสัมผัสทางกาย เช่น กอด และการให้ความช่วยเหลือ/ร่วมกิจกรรมกับเด็ก
- การแนะนำหรือบอกบท (ใช้ได้ดีที่สุดในเด็กพิเศษ)
หมายถึง การย่อยงาน โดยเรียงลำดับความยากง่ายของงาน ซึ่งในการเรียงลำดับงานพร้อมให้แรงเสริม
นั้นจะสามารถทำให้เด็กทำงานได้อย่างสำเร็จ ครูอาจมีการย้อนคำตอบให้เด็กตอบเพื่อเป็นการช่วยเหลือ
เด็กอีกด้วย
- การลดหรือหยุดแรงเสริม
ครูจะงดแรงเสริมกับเด็กที่มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ทำเป็นไม่สนใจเด็ก เอาของของเล่นหรืออุปกรณ์
ออกไปจากเด็ก เอาเด็กออกจากกิจกรรม หรือ Time out คือ การให้เด็กนั่งออกจากกิจกรรมโดยให้เด็กระลึกว่าตนเองทำสิ่งใดผิด
- ความคงเส้นคงวา
** จบเนื้อหาที่เรียนแล้ว อาจารย์ได้ให้เพื่อนๆช่วยกันตอบคำถามหลังเรียน